Bomb at Track X MILLI – เด็กเอ๋ยเด็กดี เสียงเพลงจาก “เด็ก” ที่ส่งถึง “ผู้ใหญ่” ในสังคมให้รู้จักเข้าใจและรับฟัง

#SingleReview
Bomb at Track X MILLI – เด็กเอ๋ยเด็กดี
เสียงเพลงจาก “เด็ก” ที่ส่งถึง “ผู้ใหญ่” ในสังคมให้รู้จักเข้าใจและรับฟัง
.
ต้อนรับสัปดาห์แห่งวันเด็กที่ผู้ใหญ่มักบอกกัน เด็กเอ๋ยเด็กดี ต้องมีหน้าที่ 10 ประการด้วยกัน แต่ในปีนี้ทุกสิ่งกำลังจะเปลี่ยนไป เมื่อเพลงใหม่ของ Bomb At Track วงร็อคหัวรุ่นใหม่จับมือกับแรปเปอร์สาว MILLI ถ่ายทอดเรื่องราวของความเป็นเด็กกับสังคมปัจจุบันว่า แท้ที่จริงแล้ว เด็กเอ๋ยเด็กดี ต้องมีหน้าที่แบบไหนกันแน่ การตั้งคำถามกับความเชื่อที่ถูกส่งต่อกันมารุ่นต่อรุ่น นี่คือสิ่งที่เพลง “เด็กเอ๋ยเด็กดี” จะบอกพวกเราในเพลงนี้
.
“หวือหวาและมีชั้นเชิงในการเล่าเรื่องแบบคนรุ่นใหม่” เพลงนี้บอกเราทันทีในครั้งแรกที่ได้รับฟัง ทั้งการใช้ภาษาและจังหวะของดนตรีที่มีความเป็นแรปผสมร็อค Bomb At Track ทำตรงนี้ออกมาได้ลงตัวมาก ที่สำคัญในส่วนของเรื่องที่เล่าครั้งนี้ทางวงก็ดูมีทิศทางที่เติบโตขึ้นจากเพลงก่อนหน้านี้ จากการพูดถึงแต่เรื่องวงกว้าง ครั้งนี้พวกเขาเจาะตรงไปที่เรื่องของ เด็ก ที่เป็นแรงผลักดันในอนาคตของประเทศต่อจากนี้ ถือว่าโจทย์ตรงนี้ทางวงตีได้แตกละเอียดจริงๆ อีกทั้งเรายังได้เห็นการนำ MILLI มาอยู่ในโหมดเพลงร็อคใช้เสียงกระแทกๆ ในท่อน เด็กเอ๋ยเด็กดี มันดูสะใจและตอบคำถามทั้งหมดกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปัจจุบันได้อย่างชัดเจน และอีกท่อนที่จะไม่พูดถึงก็คงไม่ได้อย่างท่อน “ถ้ารักกันต้องตี หวดด้วยก้านมะยมสักที ปลาบปลื้มใจได้ทำเรื่องดี แค่อยากจะบอกว่า ถ้ารักนะไม่ต้องซี”
.
พาร์ทของดนตรีส่วนตัวทาง Songtopia เมื่อฟังแล้วแอบรู้สึกว่า มันจบเพลงไวไปนิดนึงจริงๆ เหมือนกำลังบิ๊วอารมณ์ความพุ่งพล่านขึ้นมาได้แล้ว กลับจบลงไวซะอย่างนั้น แต่ถึงอย่างไรก็ดีตลอด 3.15 นาทีที่เกิดขึ้นในเพลงนี้มันช่างดีงามยิ่งนัก สิ่งที่เห็นในการเติบโตในอัลบั้มใหม่ของ Bomb At Track ซาวด์ที่จะมีเสียงอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น รวมไปถึงการใช้เครื่องดนตรีอย่าง กลองแต๊ก , ไซโลโฟน สอดประสานอยู่ในเพลงชวนให้เรานึกถึงบรรยากาศในวัยเด็กกับการเข้าแถวมาโรงเรียนอะไรแบบนั้นเลย
.
อีกส่วนนึงที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ ในส่วนของงานภาพที่มีความดิบและความดาร์ค ทั้งการเล่าเรื่องที่เริ่มจากฉากโต๊ะกินข้าวที่ตัวละครทุกคนต้องร้องเพลงไปตามๆ กัน เหมือนกับคำสอนของผู้ใหญ่ที่มักบอกว่า ทำตามเข้าไปเถอะ ทำไป จากนั้นภาพจะตัดไปที่เรื่องราวของ คู่แม่ – ลูก ที่แท้จริงแล้วทั้งคู่ไม่ได้มีชีวิตสวยงามเหมือนกับภาพที่เห็นบนโต๊ะอาหารโต๊ะนั้น ทั้งการลงโทษลูกในแบบต่างๆ เหมือนคำสอนที่เรามักเคยได้ยินตอนเด็ก โดยเฉพาะซีนที่ MILLI โดนตัดผมให้สั้น เราเชื่อว่า ซีนนี้หลายๆ คนน่าจะเคยได้ประสบพบเจอกับเหตุการณ์นี้มาพอสมควรในวัยเด็ก กับกฏระเบียบต่างๆ ในโรงเรียน ที่ปัจจุบันเด็กก็ยังไม่สามารถพูดและแสดงความเห็นในสิ่งที่ตัวเองเจอได้อยู่ดี ซีนนี้น่าสนใจมากๆ อีกทั้งหลังจากที่เล่าเรื่องการลงโทษในแบบต่างๆ ไป เอ็มวีเพลงนี้เลือกที่จะเล่าในแบบของการไล่ล่าจากผู้ใหญ่ที่เปลี่ยนร่างกลายเป็นปีศาจไล่จับเด็กคนนั้น ก่อนที่เรื่องราวจะตัดจบลงไปแบบปลายเปิดให้คนไปตีความกันเองว่า เด็กคนนี้จะโตมาเป็น เต้ นักร้องนำของวงอย่างที่ภาพสื่อออกมาจริงหรือไม่ ถือว่าเล่าเรื่องได้คมคายมากๆ สำหรับ จีน – คำขวัญ ดวงมณี ผู้กำกับเอ็มวีที่สร้างงานภาพในเชื่อมกับเพลงนี้ได้อย่างลงตัว
.
ท้ายที่สุดนี้ไม่มีใครรู้ว่าหลังจากที่เพลงนี้ปล่อยออกไปจะทำให้สังคมกลับมารับฟังเด็กได้มากน้อยแค่ไหน แต่สำหรับ Songtopia การเกิดเพลงนี้ขึ้นในสังคมก็เป็นการบอกแล้วว่า อาจจะถึงเวลาแล้วที่ผู้ใหญ่ต้องหันมารับฟังเด็กบ้างๆ ขอแค่รับฟังก็เพียงพอแล้วสำหรับพวกเขา
.
เพลงนี้ Songtopia ให้ไปเลย 5 ดาวเต็มมม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *