เปิดเส้นทางสายดนตรีของ TEE JETS หรือ ที Jetset’er ที่กล้าพูดได้เลยว่า..ตั้งใจมาเป็นนักร้องอยู่แล้ว 🎶
จริงๆ ผมชอบร้องเพลงมาตั้งแต่ตอนเด็กๆ คือเวลาไปกับครอบครัว มีสังสรรค์อะไรกัน คุณแม่ก็จะชอบบิลด์ให้ออกไปร้องเพลง ลากยาวมาจนถึงเวลาเพื่อนๆ จะหัดเล่นกีตาร์สมัยม.ปลาย เค้าก็จะชอบชวนให้ผมไปร้อง เพราะผมชอบร้องเพลงครับ แล้วก็เคยประกวดร้องเพลงตั้งแต่อยู่โรงเรียนจนถึงมหาวิทยาลัย แล้วก็มาค้นพบว่า มีคนชอบเสียงเราเหมือนกันก็ตอนมหาวิทยาลัยนี่แหละ คือประกวดแล้วได้รางวัลชนะเลิศมา หลังจากนั้นเลยไปร้องเพลงตามร้านอาหาร ตามผับ เก็บประสบการณ์มาเรื่อยๆ ครับ ถ้าเกิดเป็น Jetset’er ก็ 17 ปีกว่าๆ นะครับ แต่ถ้าเกิดว่าเริ่มร้องเพลงเลย 22 ปีครับ โอ้ ขนลุกเลย!
ตอนที่ผมร้องเพลงตามผับ ตามบาร์ ตามร้านอาหารเนี่ย ตอนนั้นความมุ่งหมายของเราก็อยากเป็นศิลปินแหละ อยากร้องเพลง อยากเป็นนักร้อง ตอนนั้นคือเรา Crazy อินดี้มากนะ ฟอร์มวงกันเอง ทำวงกันเอง ทำเพลงเอง แต่ว่าเราเองก็ยังไม่ได้มีความสามารถขนาดนั้น เราก็แค่ชอบร้องเพลงเฉยๆ โชคดีมากที่เรายังยึดธงของเรา ตั้งเป้าเป็นหลักว่ายังไงเราก็จะร้องเพลง เพราะฉะนั้นพอเราก้าวไปหาโอกาส มันก็มีโอกาสตรงนั้นรอเราอยู่ ก็คือ มีเพื่อนผมคนหนึ่ง ก็รู้จักกับพี่โอ Jetset’er เค้าก็เลยมาชวนไปออดิชั่น จนได้มาทำกับ Jetset’er ในที่สุดครับ
ถ้าถามว่าร้องเพลงไปถึงเมื่อไหร่เหรอฮะ ก็จนกว่าจะไม่มีคนฟังเราเนอะ คือผมอะ ยังไงก็ไม่เลิกร้องนะครับ ก็ คือมันเป็นสิ่งที่เรารัก สิ่งที่เราชอบ แล้วก็ มันก็เป็นอาชีพของผมด้วยเนอะ การร้องเพลงมันเยียวยาหัวใจ เวลาที่ไปเจอเรื่องเครียดๆ เรื่องเหนื่อยๆ ท้อแท้อะไรจากเรื่องต่างๆ ไม่ว่าเราจะดาร์กขนาดไหนก็ตาม ผิดหวังหรืออะไรก็ตาม สุดท้ายแค่ได้ร้องเพลงสักเพลงอะ ทำให้ชีวิตผมกลับมามีชีวิตอีกครั้งได้เลยนะครับ ก็คงร้องไปจนกว่าจะตายแหละครับผม
TEE JETS
SIDE PROJECT ของ T JETSET’ER
จุดเริ่มต้นของ Side Project เดี่ยวของผม มันมาจากหลายปีก่อนผมเคยคุยกับพี่โอ พี่เอ็ด พี่หมู ว่าวันหนึ่งเดี๋ยวเราอาจจะต้องแยกย้ายกันไปทำโปรเจกต์พิเศษของตัวเอง ผมก็ยังคิดเลยว่า เออ หรือจะออกเป็นดูโอ้มั้ยพี่โอ ระหว่างที่วงพัก หรือจะเป็นเดี่ยวดี ผมก็คุยไว้เฉยๆ ยังไม่ได้เป็นจริงเป็นจัง จนกระทั่งเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว เริ่มรู้สึกจะมีเค้าความจริงมากขึ้น เพราะว่าตอนนั้น Jetset’er ปล่อย 5 เพลง เป็นเพลงใน Mini-Album ที่ชื่อว่า Digital Soul ก็เท่ากับว่าในขวบปีต่อไปก็น่าจะยังไม่มีผลงานของ Jetset’er ออกมา บวกกับตอนนั้นพี่โอเค้ามีธุรกิจกับทางบ้านด้วยครับ ก็น่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม เพราะว่าเค้าจะต้องเดินทางไปกลับที่ต่างจังหวัดบ่อยๆ ทางผมเองก็ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ก็มีเพลงที่เราเคยลองเขียนไว้ เพลงที่เราเคยคุยกับพี่ๆ โปรดิวเซอร์หลายๆ คนไว้ ว่าถ้าวันนึงเราจะทำเพลง เราอยากได้ประมาณนี้ เพราะฉะนั้น ในเวลาที่วง Jetset’er พัก ยังไม่ได้มีผลงานใหม่ๆ ออกมา ก็เดี๋ยวฟังเพลง Side Project ผมไปก่อนในช่วงนี้ละกัน
แน่นอน มันยากขึ้น มันมีรายละเอียดยิบย่อยที่เราต้องตัดสินใจเองแทบจะทุกอย่าง เหมือนกับว่ามัน Represent ตัวเราแล้ว ไม่ใช่ภาพวงแล้ว ทีนี้เราก็จะหาซาวด์ที่มันสังเคราะห์อะไรที่มันแปลกใหม่มากขึ้น เพราะฉะนั้นมันก็มีความท้าทายที่เราจะต้องเลือกซาวด์ เลือกทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตัวเองครับ หลังจากทำมาแล้ว 2 เพลง ก็รู้สึกว่า เออ สนุกดี มันเป็นความท้าทายอีกสเต็ปหนึ่งของเรา
สมาชิกวงก็ได้ฟัง เค้าก็ชอบนะครับ เอะอะผมก็โยนเข้ากลุ่มให้แชร์หมดเลย ช่วยแชร์ด้วยนะ เค้าก็บอก เออ เพราะดี
JETSET’ER ยุบวง ?
คือเรื่องวงแตกเนี่ย ข่าวดังมากเลยนะครับ คนแชร์เป็นหมื่น พอมาแก้ข่าวว่าไม่แตก คนแชร์หลักร้อยนะครับ (หัวเราะ) คือต้องบอกว่า เราไม่เคยประกาศว่าเราจะแยกวง เราไม่เคยประกาศว่าเราจะยุบวง เราแค่พักวงเฉยๆ เอาเป็นว่า พักไปเก็บประสบการณ์ของแต่ละคนมากกว่า การรับงานทุกวันนี้ก็ยังรับ เป็นวง Jetset’er ก็ยังรับอยู่ ชัดเจนว่าไม่ได้แยกย้ายกัน ก็จะรับงานเดี่ยวด้วย รับงานวงด้วย ผมก็ยังคุยกับพี่โออยู่นะว่า เออ อีกปี สองปี ยังไงแต่งเพลงเผื่อไว้ด้วยนะ เผื่อสมมติว่าผมออก Side Project เดี่ยวครบแล้ว จะได้มาทำ Jetset’er กันต่อ ติดตามรอดูกันต่อไปครับว่า จะมีผลงาน Jetset’er ออกมาเมื่อไหร่ ยังไง ครับผม
เป้าหมายของผมก็คือ อยากร้องเพลงไปเรื่อยๆ ให้มีคนมานั่งฟังเพลงของเรา มีแฟนคลับ อาจจะไม่ได้เยอะ คนที่เค้าชอบเราจริง รักในตัวของเรา รักในเสียงของเรา ขอให้มีโมเมนต์แบบนั้นเกิดขึ้นไปเรื่อยๆ แค่นั้นก็พอครับ เหมือนได้ทัวร์คอนเสิร์ตไปเรื่อยๆ ได้ทำเพลงของเราไปเรื่อยๆ
#Songtopia #TEEJETS