บรรยากาศการทำงานในออฟฟิศของทุกคนเป็นยังไงบ้างครับ? ชอบสภาพแวดล้อมที่แสนสุนทรีย์ ฟังเพลงไปด้วยทำงานไปด้วยแล้วไอเดียจะบรรเจิด หรือชอบอยู่เงียบๆ คนเดียว ขอคิดอะไรคนเดียวมากกว่า แต่จริงๆ แล้วไม่ว่าจะชอบแบบไหนมันก็ไม่มีผิดถูกหรอกนะครับ เพราะถือว่าเป็นความชอบของแต่ละคน อีกทั้งยังเป็นเรื่องของความต่างในด้านหน้าที่การงานอีกด้วย
.
สำหรับคนที่ชอบฟังเพลงเวลาทำงานนั้น สมองจะเปรียบเสียงเพลงเป็น ‘Music Therapy’ คือจะมาช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น มีสมาธิโฟกัสกับงานมากขึ้นและสามารถผลิตผลงานที่ดีออกมาได้ Teresa Lesiuk ผู้ช่วยศาสตราจารย์และผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรีบำบัด เคยบอกว่า “พนักงานที่ได้ฟังเพลงที่ชอบระหว่างทำงาน จะทำงานเสร็จเร็วกว่า แถมยังมีไอเดียผุดขึ้นมากกว่าคนที่นั่งทำงานเงียบๆ อีกด้วย” เพราะ 90% ของคนที่ได้ฟังเพลงที่ชอบจะทำให้มีอารมณ์ดี ซึ่งการที่เราอยู่ในสภาวะอารมณ์ที่ดีก็จะไปกระตุ้นการทำงานของสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับความคิด ช่วยให้เราเปิดรับสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้น มีระดับความคิดสร้างสรรค์ที่สูงขึ้น และแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ได้ดีขึ้น
.
แต่อย่างไรก็ตามนะครับ ถ้าเพลงที่ฟังมันเป็นการกระตุ้นผู้ฟังมากเกินไป ก็จะดึงดูดความสนใจของเราออกไปจากตัวงานที่กำลังทำอยู่ เหมือนกับที่นักวิจัย Josh Davis ได้ให้ความเห็นสวนทางไว้ว่า “เสียงเพลงที่ดีที่สุดระหว่างการทำงาน คือเสียงเพลงแห่งความเงียบ หรือเสียงสภาพแวดล้อมในภาวะปกติ (Noise)” อธิบายง่ายๆ ได้ว่า ในช่วงที่ต้องจดจ่อกับงานจริงๆ ก็ควรให้มันเป็นชั่วโมงการนั่งทำงานแบบเงียบๆ จะดีกว่า แต่ในช่วงเวลาที่เหลือ เช่น เคลียร์งาน สรุปงาน เช็คอีเมล์ ก็ค่อยเปิดเพลงเพื่อเป็นการกระตุ้นและเติมพลังให้กับเรา
.
สรุปแล้ว จะฟังเพลงหรือไม่ฟังเพลงขณะทำงานนั้นมันขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลมากกว่า การเปิดเพลงอาจจะลดความน่าเบื่อลงให้กับบางคน แต่สำหรับคนที่จำเป็นต้องใช้สมาธิและการจดจ่อสูง การอยู่เงียบๆ อาจช่วยให้งานเสร็จได้เร็วกว่า การฟังเพลงอาจไม่ได้ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานของเราโดยตรง แต่ส่งผลต่ออารมณ์ของเราที่มีผลกระทบต่อการทำงานนั้นๆ ฉะนั้น! สิ่งที่เราควรให้ความสำคัญมากที่สุดก็คือ “อารมณ์ของเรา” ในขณะที่ฟังเพลง ว่าเรามีความสุขกับมันหรือไม่