“หนังสือเพลง ใครๆ เค้าก็พกไว้จีบสาวกันทั้งนั้น”

“หนังสือเพลง ใครๆ เค้าก็พกไว้จีบสาวกันทั้งนั้น”
.
หลายๆ คนน่าจะเคยพกหนังสือเพลงไปโรงเรียนกันบ้างนะครับ ยอมรับว่าหนักกว่าหนังสือเรียนบ้างเล่มซะอีก แต่มันคือของจำเป็นที่ไม่พกไม่ได้จริงๆ เพราะในช่วงพักกลางวันหลังทานข้าวเสร็จ ไอ้เจ้าหนังสือเพลงมันจะกลายเป็นศูนย์กลาง ที่ถ้าใครถือไว้ในมือพร้อมกีตาร์คู่ใจ ไม่ว่าจะเพื่อนสาวหรือเพื่อนชายก็จะเข้ามาล้อมวงกัน ยิ่งถ้าสาวๆ ขอเพลงไหนแล้วเราเล่นได้อีกนั่นแหละโคตรจะเท่เลยครับ
.
“ตั้งแต่ผมอายุ 5-6 ขวบ ก็สนใจการร้องเพลงแล้ว และได้หนังสือ The Guitar นี่แหละ ที่เป็นครูสอนการเล่นกีตาร์ ตอนนั้นยังเป็น I.S. Song Hits อยู่เลย” – แอ๊ด คาราบาว
.
ผู้สร้างตำนานหนังสือเพลง ‘เล็ก วงศ์สว่าง’ เคยให้สัมภาษณ์ในหลายๆ ที่ว่า ตัวเขาเองก็ได้รับอิทธิพลของเพลงมาจากการฟังวิทยุค่อนข้างมาก ในตอนที่เขาทำงานเป็นดีเจ จดหมายส่วนมากที่เขาได้รับล้วนเป็นการส่งมาขอเนื้อเพลง เพื่อเอาไปฝึกร้อง เขาเลยเกิดไอเดียหนังสือเพลงขึ้นมา โดยเริ่มจาก I.S. Song Hits เพลงสากลล้วนก่อน แล้วพอเข้าช่วงปลาย 60’s เมื่อผู้คนเริ่มหันมาฟังเพลงไทยมากกว่าเพลงสากล คุณเล็กก็เลยทำหนังสือเพลงไทยใส่คอร์ดโดยใช้ชื่อว่า ‘The Guitar’ นับเป็นหนังสือเพลงเล่มแรกในเมืองไทย
.
หลังจากที่หนังสือเพลงเริ่มตีตลาดคนไทยโดยเฉพาะในหมู่คนดนตรี ก็ทำให้เกิดหนังสือเพลงที่มีออปชั่นให้เลือกมากขึ้น จากที่เคยมีแค่เนื้อเพลงและคอร์ด ก็มีรูปศิลปินเพิ่มมาบ้าง มีข้อมูลสาระของศิลปินหรือเพลงบ้าง เป็นหนังสือที่รวมแต่เพลงฮิตไว้บ้างต่างๆ นานา ทำให้การจะซื้อหนังสือเพลงแต่ละทีต้องคอยเปิดดูข้างในด้วย เล่มไหนมีเพลงที่ชอบเยอะที่สุดก็จะเลือกซื้อเล่มนั้น แต่ถ้าใครต้องการความแรร์จริงๆ ก็ต้องเก็บให้ครบทุกเล่มนั่นล่ะฮะ
.
“ผมเล่นดนตรีเป็นเพราะคุณเล็ก แกไม่เคยมาสอนผม แต่ผมซื้อหนังสือ The Guitar ผมมีวงดนตรีกับเพื่อนตอนแรกก็เพราะหนังสือเล่มนั้นเลย” – สิงโต นำโชค
.
แม้ว่าในปัจจุบันจะมีเนื้อเพลงและคอร์ดเพลงให้หากันง่ายๆ ตามอินเทอร์เน็ตแล้ว แต่หนังสือเพลงก็ยังคงเป็นไอเทมคลาสสิกในยุคเฟื่องฟูของวงการเพลง และเป็นสิ่งบันเทิงที่อยู่คู่กับวัยรุ่นยุคนั้นอยู่ดี …ใครยังมีหนังสือเพลงสะสมไว้อยู่ แชะภาพมาให้ Songtopia ดูกันหน่อยนะฮะ 📸
.
#Songtopia