หลังจากที่สร้างผลงานมานานนับ 10 ปี ล่าสุดสมาชิกวง Cocktail ได้ออกจดหมายแจ้งถึงอนาคตอีก 2 ปีข้างหน้า ว่าหลังปี 2025 จะไม่มีการทำงานของวง Cocktail อีกต่อไป
โดยทางวงได้มากับข้อความร่ายยาวถึงการเติบโตจากคนดนตรีที่มีรุ่นพี่ในวงการเป็นไอดอล จนถึงวันที่อยากเป็นตัวเองแบบไม่เหมือนใคร ผ่านการสนับสนุนของหลายๆ คน จนถึงวันที่วงได้มองว่าพวกเขาใช้ชีวิตในฐานะวง Cocktail คุ้มแล้ว และอยากให้ทุกคนจดจำภาพของวงในวันที่แข็งแรงที่สุดเอาไว้ ก่อนที่โอมจะสรุปว่าหลังปี 2025 จะไม่มีการแสดงของวงดนตรีที่ชื่อ Cocktail อีกต่อไป และได้มีการจัดการเรื่องกองทุนสำหรับสมาชิกเบื้องหน้า เบื้องหลัง รวมถึงผลประโยชน์ต่างๆ ของวง และสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งตัวโอม นักร้องนำ จะไม่แสดงดนตรีเป็นอาชีพหลักหลังจากนี้อีกต่อไป
ซึ่งในปี 2024 จะเป็นปีที่พวกเขารับงานแสดง งานเทศกาลดนตรี เป็นปีสุดท้าย ก่อนจะใช้ปี 2025 เพื่อเดินสายบอกลาและเล่นคอนเสิร์ตใหญ่ โดยจะใช้เวลา 2 ปีนี้ให้เต็มที่ที่สุดในฐานะวง Cocktail
ถ้ามองย้อนกลับไป วง Cocktail ถือเป็นอีกวงที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร และประสบความสำเร็จแทบทุกมิติ เพราะหลังจากโลดแล่นในฐานะศิลปินอินดี้เป็นเวลา 8 ปีนับตั้งแต่ โอม-ปัณฑพล ประสารราชกิจ ได้เริ่มทำเพลงสมัยเรียนมัธยมจนมีอัลบั้มเต็ม 3 ชุด และ EP อีก 3 ชุด พร้อมผลงานที่หลายคนคุ้นเคยอย่าง “ซ้ำซ้อน”, “วัย”, “เศษซากความฝัน” วง Cocktail ได้เข้าสู่บ้าน genie records และมีอัลบั้ม Ten Thousand Tears ที่มีเพลงดังอย่าง “ฉันร้องไห้เป็นหมื่นครั้งเพื่อมาเจอเธอ” “เวลา” “สาวเซี่ยงไฮ้” “งานเต้นรำในคืนพระจันทร์เต็มดวง” และ “เธอทำให้ฉันเสียใจ” ก่อนอัลบั้ม The Lords of Misery จะมากับเพลง “คุกเข่า”, “เธอ”, “น้ำตาสุดท้าย”, “โปรดเถิดรัก” ที่ทำให้หลายๆ คนได้สัมผัสเรื่องราวและซาวด์ที่ไม่เหมือนใครแบบฉบับพวกเขา
หลังจากแจ้งเกิดเต็มตัว พวกเขาก็มีผลงานโดดเด่นออกมาทุกอัลบั้ม ไม่ว่าจะเป็น “ช่างมัน” และ “กาลเวลาพิสูจน์คน” ในชุด Cocktail โดยใน 2 ชุดล่าสุด Fate αlpha และ Fate Ωmega ก็มีเพลงฮิต “ดึงดัน” และ “เรื่องธรรมดา” แถมเพลงที่พวกเขาทำประกอบหนัง เกม และซีรีส์ก็โดดเด่น ทั้ง “ไม่เป็นรอง” ประกอบเกม Nine Songs of Fantasy, “เร้น” จากภาพยนตร์ แมนสรวง รวมถึง “ลั่นทม” จากซีรีส์ หอมกลิ่นความรัก เรียกได้ว่านับตั้งแต่เข้าสู่ค่ายใหญ่ พวกเขาก็มีผลงานเพลงฮิตทุกชุด ขณะเดียวกันผลงานยุคอินดี้ก็มีหลายคนย้อนกลับไปฟัง จนกลับมาติดเซ็ตลิสต์คอนเสิร์ตวง และเพลงอย่าง “ซ้ำซ้อน” ก็กลับมาในเวอร์ชันใหม่ด้วย
นอกจากผลงานเพลงโดดเด่น จากภาษาและเนื้อหาที่แตกต่าง ไปจนถึงงานภาคดนตรีที่คราฟท์ออกมาอย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะผสมผสานออเคสตร้าและแนวเมทัล วง Cocktail ยังมีคอนเสิร์ตใหญ่ The Heartless Live ที่เมืองไทย จีเอ็มเอ็มไลฟ์เฮาส์ มาจนถึงงาน Cocktail Live เล่นด้วยหัวใจเสมอมา ที่อิมแพ็ค อารีน่า และในปี 2023 ก็ได้มากับคอนเสิร์ตออเคสตร้า Cocktail Classics A Symphony Orchestra ที่หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ที่ขายบัตรหมดทั้ง 3 รอบ
ซึ่งความสำเร็จหลากมิติของ Cocktail ล้วนเกิดจาก “ความแตกต่าง”, “แนวคิด” ไปจนถึง “ความเป็นศิลปิน” และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ “แฟนเพลง” ซึ่งทางวงได้ให้ความสำคัญกับคนกลุ่มนี้เสมอมา จนเกิดโมเมนต์ประทับใจเวลามีคอนเสิร์ตใหญ่อย่างเช่นงาน Cocktail Live เล่นด้วยหัวใจเสมอมา ที่แม้จะจัดในอิมแพ็ค อารีน่า แต่หลังจบงานพวกเขาก็ยังมาเล่นอังกอร์แบบอะคูสติกใกล้ชิดคนที่ยังไม่กลับบ้าน ส่วนงาน Cocktail Classics พวกเขาก็จัดขึ้นพร้อมความตั้งใจที่อยากให้ทุกคนได้สัมผัสความสวยงามของดนตรีออเคสตร้าในราคาที่จับต้องได้ และทางเราเองก็เชื่อว่า ถ้าไปถามแฟนๆ ของ Cocktail หลายๆ คนก็คงมีอีกหลายเรื่องราวและความทรงจำอบอุ่นที่พร้อมจะแชร์กับคุณ
ปัจจุบันนี้นอกจากการทำผลงานในฐานะวง Cocktail แล้วสมาชิกของวงได้มีผลงานด้านการบริหารค่ายเพลง gene lab และหน้าที่การเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับศิลปินในค่าย ซึ่งทำให้นอกจากเรื่องราวในปี 2024-2025 ของวง Cocktail แล้ว ก้าวต่อไปของสมาชิกครอบครัว Cocktail ก็เป็นสิ่งที่หลายคนสนใจ แต่ก่อนจะถึงวันนั้น เราอยากให้ทุกคนได้ใช้ 2 ปีกับครอบครัว Cocktail ให้เต็มที่ที่สุด เพราะแม้มันอาจจะฟังดูเป็นเวลาที่สั้น แต่เราเชื่อว่าวงที่ “วางแผนอย่างละเอียด” และ “เล่นดนตรีที่หัวใจเสมอมา” อย่าง Cocktail จะทำให้ 2 ปีนี้่เป็นปีที่ “ยากจะลืม” สำหรับทุกคนที่รักพวกเขา