ผ่านไปแล้วสำหรับงาน 4EVE Concert “NOW OR NEVER” Live at Impact Arena คอนเสิร์ตเต็มรูปแบบของ 4EVE ที่เป็นเหมือนอีกหมุดไมล์สำคัญสุดๆ ของวงการ T-POP ยุคนี้ เพราะนี่ถือเป็นครั้งแรกที่วงเกิร์ลกรุ๊ป T-POP มีคอนเสิร์ตสเกลอิมแพ็ค อารีน่า ซึ่งทั้ง มายด์ อาทิตยา, อ๊ะอาย กรณิศ , แฮนน่า โรสเซ็นบรูม, ตาออม เบญญาภา, ฝ้าย ณัฐธยาน์, โจริญ คัมภีรพันธุ และ พั้นช์ ทิพานัน ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวัง
ในงาน 4EVE Concert “NOW OR NEVER” แฟนๆ ได้ฟังเพลงของวงแบบครบถ้วนสุดๆ ไม่ว่าจะเป็น “ooh la la”, “4EVER” “ข้อยกเว้น”, “CASUAL”, “boutchya”, “ภาพหลอน”, “ไปล้อเล่นไกลๆ”, “Trick or Treat”, “NO ONE”, “LIKE A BLING”, “Nobody’s perfect” “VROOM VROOM” “JACKPOT”, “Life Boy”, “I like boys”, “Booty Bomb” และ “BOMB!” เรียกได้ว่ามาครบ ไปจนถึงเพลงฮิตอย่าง “หยดน้ำตา”, และเพลงน่ารักอย่าง “สิ่งเล็กน้อย” กับ “วันแรกของวันที่เหลือ” คือถ้านับเซ็ทลิสต์ดูจะพบว่างานนี้มีเพลงเกือบ 40 เพลงเลย และที่น่าสนใจคือวงได้นำเพลง “วัดปะล่ะ” และ “หยดน้ำตา” มาเล่นตั้งแต่ช่วงกลางงาน ซึ่งฉีกแพทเทิร์นเดิมๆ ของหลายคอนเสิร์ตเดี่ยว แต่กราฟงานไม่ตกเลย แถมมีเซอร์ไพรส์เรื่อยๆ อย่างเช่นการเล่นเพลงใหม่ หรือแม้แต่การปรากฏตัวแบบใกล้ชิดคนดู
และนอกจากเพลงของวงแล้ว สิ่งที่เป็นเหมือนธรรมเนียมของคอนเสิร์ตเดี่ยว 4EVE ก็คือพาร์ทโซโล่ ที่ฝ้าย มากับเพลงสากล “Baby”, ตาออม มากับเพลง “Senorita”, โจริญ มากับเพลงญี่ปุ่นโชว์พลังเสียงอย่าง “Gurenge” ส่วน พั้นช์ มากับเพลงเคป็อป “Standing next to you” ที่แซ่บสุดๆ ส่วนกลุ่มสอง แฮนน่า ก็มากับเพลงดังจากกามิกาเซ่อย่าง “รักฉันทำไม” ส่วน มายด์ ได้โชว์ร้อง “Versace on the floor” และ อ๊ะอาย ได้มากับเพลงซึ้ง “สักวันหนึ่ง” ที่เธอร้องกลางอากาศ ซึ่งนอกจากการโชว์พลังเสียงแล้ว พวกเธอยังโชว์ฝีมือการแสดงในช่วง 4EVE การละคร ที่เริ่มด้วยนิทานคนแคระทั้งเจ็ด โดยมีอลิซที่รับบทโดย โอ๊ต ปราโมทย์ ที่สุดท้ายเฉลยว่าตัวเองคือคุณพ่อของทั้ง 7 คน ซึ่งนำเข้าสู่การแสดงเพลง “ฟ้ารักพ่อ” ของ Badmixy ในเวลาต่อมา และตัวของโอ๊ตก็มาร้องเพลง M.r Everything ของ Billkin ด้วย
และในพาร์ทแขกรับเชิญนอกจากโอ๊ตแล้ว เราก็ได้เจอกับ UrboyTJ ที่มาร่วมร้องเพลง “วัดป่ะล่ะ” และ “มีอีกไหม” ก่อนโชว์เพลง “เป็นได้ทุกอย่าง”ขณะที่ อิ้งค์ วรันธร ได้มาร่วมแจมในเพลง “Flashlight” กับ มายด์ อ๊ะอาย และ แฮนน่า ก่อนร้องเพลง “สายตาหลอกกันไม่ได้” และที่เราเซอร์ไพรส์สุดๆ คือ จ๋าย และ โมส TaitosmitH ที่ขึ้นมาโชว์เพลง “เล่นของสูง” กับ ฝ้าย, ตาออม, พั้นช์ และ โจริญ ผู้เคยร้องเพลง “นักเลงเก่า” ในคอนเสิร์ตแรก และ จ๋ายกับโมสยังได้โชว์เพลง “โคโยตี้” กับสาวๆ และปิดช่วงตัวเองด้วยเพลง “แดงกับเขียว” ซึ่งบอกเลยว่าเดือดมากๆ และแฟนๆ หลายคนก็ปล่อยจอยสนุกแบบเต็มที่
โดยพาร์ทโปรดักชั่น บอกเลยว่าสุดมากๆ ทั้งตัวจอที่ตั้งเฉียง ซึ่งดีกับคนดูที่อยู่ปีกริมสุดของฮอลล์มากๆ เพราะเห็นสิ่งที่อยู่บนจอได้ง่าย และการทำเวทีให้เป็นโครงคล้ายรูปตา จนเรามองว่าน่าจะได้แรงบันดาลใจกับชื่อแฟนคลับอย่างฟอร์อาย และยังมีการวางแพลตฟอร์มลูกเล่นเล่นระดับหลากรูปแบบมาก พร้อมทั้งยังมีการสร้างบ้านจำลองในธีมสีชมพูช่วงกลางคอนเสิร์ตอีกด้วย ส่วนดนตรีงานนี้ก็มากับดนตรีสดที่ ซึ่งทีมแบ็คอัพงานนี้เรียกได้ว่า เล่นได้ทุกแนวเลย โดยส่วนตัวแล้วเราชอบการเล่นเพลงมีเดียม เพลงร็อค และเพลงช้าของทีมนี้
แต่สิ่งที่ทำให้เราตื่นตาเป็นพิเศษ ก็คือการที่เมมเบอร์ลอยบนแพลตฟอร์มไปหาแฟนๆ ถึงสองครั้ง จนเราแอบสงสัยขึ้นมาว่านอกจากความสามารถและเสน่ห์แล้ว มันมีข้อกำหนดในสัญญาไหมว่าสมาชิก 4EVE ห้ามกลัวความสูงหรือเปล่า เพราะนอกจากยกลอยข้ามฮอลล์แล้ว ยังมีโมเมนต์ที่มีการใช้ลิฟท์บนเวที ซึ่งทางทีม Keep in Touch ผู้รับผิดชอบด้านการรันคิว ได้เผยในโพสต์ว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้มีการใช้ลิฟท์ 16 ตัว ที่ขึ้นลงได้อิสระ และชุดแขวนรอกกลางอากาศอีก 3 ตัวที่พาน้องๆ ลอยบนอากาศ จนเรากล้าบอกว่านี่น่าจะเป็นคอนเสิร์ตไทยที่เล่นกับโปรดักชั่นแบบหนักมือสุดๆ ตรงคอนเซ็ปต์ Now or Never ที่เหมือนสื่อว่าถ้าไม่จัดเต็มตอนนี้ จะไปจัดเต็มตอนไหน!
แม้ว่างาน 4EVE Concert “NOW OR NEVER” Live at Impact Arena จะใช้โปรดักชั่นจัดเต็ม แต่เราก็เชื่อว่าถึงเป็นคอนเสิร์ตเรียบง่าย ไม่มีลูกเล่นบนเวที หรือพร็อพก็แล้ว แต่สมาชิกทั้ง 7 ก็พร้อมจะสร้างความบันเทิงและโมเมนต์ใจฟูยาวๆ ตลอดงาน เพราะพวกเธอทั้งร้อง ทั้งเต้น กับทุกซาวด์และทุกเพลง แถมยังโชว์สกิลล์วาไรตี้พูดคุยปล่อยมุกจนเราแอบอยากไปแก้ประวัติพวกเธอในวิกิจากวงเกิร์ลกรุ๊ปเป็นคณะตลกตัวท็อปด้านวิชวล แถมช่วงท้ายก็เผยความจริงใจกับแฟนๆ พร้อมการพูดคุยที่ให้เกียรติทีมงานผู้ปิดทองหลังพระ และเมื่อเราเดินออกจากงาน เราก็มองว่าเร็วๆ นี้การที่จะได้เห็น 4EVE ในที่ที่ใหญ่กว่าอิมแพ็ค อารีน่า ก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป