เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาไม่นานนี้ เกิดกระแสพูดคุยกันอย่างล้นหลามบนโลก Twitter เกี่ยวกับวงดนตรีขวัญใจวัยรุ่นอย่าง Tattoo Colour ถึงเรื่องราวยุคสมัยที่เพลงของวงฮิตและเป็นที่รู้จัก กับการเติบโตตลอด 16 ปีในวงการเพลงไทย ทำให้วันนี้ Songtopia หวนคิดถึงวันวานเหล่านั้นเช่นกัน จึงอยากจะชวนทุกคนไปย้อนความทรงจำเรื่องราวความฮิต ความป๊อปของ Tattoo Colour กันหน่อยว่า ที่ผ่านมาพวกเขาผ่านยุคสมัยแบบไหนกันมาบ้าง และความโด่งดังที่พูดถึงกันเป็นเรื่องราวแบบไหน ถ้าพร้อมแล้วก็ตามพวกเรามาได้เลยครับ
.
ย้อนกลับไปในปี 2549 ค่าย Smallroom Bangkok Pop Music Label เปิดตัววงหน้าใหม่ที่มีนามว่า Tattoo Colour ประกอบไปด้วย 4 หนุ่มเด็กจากจังหวัดขอนแก่น “ดิม” “รัฐ” “จัมพ์” และ “ตง” กับซิงเกิลแรกที่มีชื่อว่า ฝากที โดยทันทีที่เพลงนี้ถูกปล่อยออกไปตามคลื่นวิทยุก็ทะยานขึ้นอันดับ 1 ของชาร์ตเพลงหลายๆ คลื่นในเวลานั้นอย่างรวดเร็ว ทั้ง Fat Radio (ปัจจุบันคือ Cat Radio), Seed 97.5, Virgin Hitz รวมถึงอีกหลายๆ คลื่นทั่วประเทศมากมาย จากกระแสความฮิตในตอนนั้นทางค่ายห้องเล็กก็ไม่รอช้าจัดการปล่อยซิงเกิลที่ 2 “ฟ้า” เพลงช้าสุดฮิตของทางวงออกมาทันที และเพลงนี้เองก็ทำให้คนไทยทั้งประเทศรู้จักวง Tattoo Colour อย่างเป็นทางการ พร้อมกับส่งให้อัลบั้มแรกอย่าง “Hong Ser” ออกมากวาดความฮิตเอาไว้อยู่ภายใต้กำมือของเด็กหนุ่มทั้ง 4 คนได้อย่างอยู่หมัด ทั้งเพลง เกาะร้าง ห่างรัก, One Night Stand, กลัว และ รอยจูบ
.
ช่วงเวลานั้นต้องบอกเลยว่า Tattoo Colour โด่งดังมากๆ ในหมู่วัยรุ่นทั้งนักเรียน นักศึกษา ไม่มีใครไม่รู้จักเพลงของพวกเขา อีกทั้งด้วยอุปนิสัยขี้เล่นเป็นกันเองของทางวงก็ทำให้พวกเขายิ่งเพิ่มฐานแฟนคลับได้ต่อเนื่อง และในปี 2551 ซิงเกิลแรกจากอัลบั้มที่ 2 “ชุดที่ 8 จงเพราะ” ที่มีชื่อเพลงว่า ขาหมู ก็ได้ถูกปล่อยออกมาและยังคงสานต่อความฮิตของพวกเขาได้อีกเช่นเคย ทำให้เพลงซิงเกิลที่เหลือในอัลบั้มนี้กลายเป็นเพลงฮิตติดชาร์ตแทบทั้งอัลบั้มทันที ทั้งเพลง จำทำไม, โกหก, Cinderella, โอกาสสุดท้าย และ เปิดเพลงไหน เปิดเมื่อไหร่ ก็ยังสวยงาม ทำให้ในปีนั้นพวกเขาจึงมีคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในชีวิต กับคอนเสิร์ตที่มีชื่อว่า “กาลครั้งหนึ่ง Tattoo มาแล้ว Concert”
.
จากความสำเร็จของวง Tattoo Colour ทำให้ปีต่อมา ดิม นักร้องนำของวงมีงานแสดงภาพยนตร์ “แหยม ยโสธร ภาค 2” สร้างชื่อเสียงให้คนได้เห็นได้รู้จักมุมอื่นๆ ของวงอย่างที่มีน้อยวงนักที่จะทำได้แบบพวกเขา จากนั้นวงก็แอบซุ่มทำอัลบั้มใหม่ที่มีชื่อว่า “ตรงแนวๆ” ที่ใช้เวลาเกือบ 4 ปีด้วยกัน พร้อมทั้งเปิดช่อง YouTube ที่มีชื่อว่า Tattoo Colour TV ช่องที่พวกเขาจะพาไปติดตามช่วงชีวิตการทำงานตลอดทั้งอัลบั้มนี้ ก่อนที่จะปล่อยซิงเกิลแรกอย่างเป็นทางการในปี 2555 กับเพลงที่มีชื่อว่า ลับสุดยอด ออกมาให้แฟนเพลงได้หายคิดถึงกันและส่งเพลงอย่าง เธอไม่อาจเอารักไปจากหัวใจ ออกมาตามสูตรฮิตที่วงทำไว้เฉกเช่นอัลบั้มที่แล้ว และอีกหนึ่งเพลงที่ฮิตก่อนที่จะถ่ายทำมิวสิควิดีโอด้วยซ้ำกับเพลง รักแรกพบ บทเพลงรักแสนหวานของวง Tattoo Colour ที่ปัจจุบันนี้ก็ยังมีคนฟังและร้องตามได้เสมอทุกครั้งที่วงนำเพลงนี้ออกไปเล่น ก่อนที่ในปีเดียวกันนี้วงจะมีคอนเสิร์ตใหญ่อีกครั้งกับ “กาลครั้งสอง Tattoo คันเว่อรร์”
.
ถัดจากอัลบั้มชุดที่ 3 เช่นเคย Tattoo Colour ขอเวลากลับไปทำอัลบั้มใหม่อีกครั้ง โดยในอัลบั้มชุดนี้ใช้เวลาในการทำงานเบื้องหลังกันเกือบ 2 ปีเต็มด้วยกัน ซึ่งอัลบั้มชุดที่ 4 ก็มีชื่อว่า POP DAD อีกหนึ่งอัลบั้มที่มีลูกเล่นและฝีไม้ลายมือในการทำดนตรีที่ยังคงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและเอกลักษณ์ของทางวง โดยเพลงแรกที่ปล่อยออกมาก็คือเพลง คืนนี้สบาย เพลงเร็วท่าไม้ตายของวงที่ปล่อยออกมาเมื่อไหร่ก็ฮิตทุกที และซิงเกิลต่อมาอย่างเพลง ซ่อนหา อีกหนึ่งเพลงฮิตที่ดีทั้งเพลงทั้งมิวสิควิดีโอ ที่สำคัญอัลบั้มนี้นอกจาก 2 เพลงฮิตนี้แล้วยังมีเพลงฮิตอย่าง เพลงของเรา, สุดท้ายแล้วเธอต้องไป, จากกันด้วยดี และ อยากรู้…เสมอมา เช่นเคยจากความสำเร็จอีกครั้งของ Tattoo Colour ก็ทำให้พวกเขามีคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งที่ 3 กับคอนเสิร์ตที่มีชื่อว่า “กาลครั้งสาม Tattoo Colour Popdad Concert”
.
ปี 2560 “สัตว์จริง” อัลบั้มชุดที่ 5 ของ Tattoo Colour ก็ถูกเผยแพร่สู่หูฟังของแฟนเพลงอีกครั้งพร้อมกับเพลงเปิดตัวอย่าง “เผด็จเกิร์ล” เพลงชาติของคนที่เคารพคนรัก ที่ปล่อยออกมาได้ถูกจังหวะพอเหมาะกับการเปลี่ยนแปลงของประเทศ โดยนอกเหนือจากเพลงเปิดตัวในอัลบั้มนี้แล้ว เพลงฮิตของพวกเขาในอัลบั้มนี้ก็ยังมี รถไฟ, เนรมิตเอง, รองเท้าเก่า และ No.1
.
หลังจากอัลบั้มชุดที่ 5 ออกวางแผงไป วงก็ได้ผจญภัยในโลกของเสียงดนตรีในพาร์ทของการแสดงสดและการโชว์ตัว พร้อมกับการสร้างสรรค์คอนเทนต์ออนไลน์ที่เป็นทางถนัดของวง จนในปี 2563 พวกเขาก็กลับมาอีกครั้งกับการปล่อยเพลงในรูปแบบของซิงเกิล นำโดยเพลง ร้อนของ, เซาเถอะ และ สงครามเย็น ซึ่งทั้ง 3 เพลงก็ยังคงมีเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของ Tattoo Colour ที่เรารู้จักเสมอ ที่สำคัญได้ข่าวว่าในปี 2565 พวกเขากำลังซุ่มทำอัลบั้มใหม่กันอยู่ ไม่แน่เร็วๆ นี้เราอาจจะได้ยินเพลงใหม่จากพวกเขาก็เป็นได้
.
ท้ายที่สุดนี่คือเรื่องราวการผจญภัยของ Tattoo Colour ที่อยู่กับพวกเรามาเกือบทุกยุคทุกสมัย ใครที่มีความทรงจำไหนเกี่ยวกับวงนี้ก็อย่าลืมแวะมาบอกเล่าให้พวกเราฟังกันได้นะครับ